ศูนย์การแพทย์ให้คำปรึกษา และรักษาผู้มีบุตรยาก – Angel Baby Clinic

สาเหตุของภาวะมีบุตรยากคืออะไร? นิยามและแนวทางการรักษาภาวะมีบุตรยาก

infertility-causes

Table of Contents

คู่รักจำนวนมากพยายามมีบุตรแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ในประเทศไทยประมาณ 10-15% ของคู่รัก ประสบภาวะมีบุตรยาก หากแต่งงานและพยายามมีบุตรมาเป็นเวลาหนึ่งปี โดยไม่มีการคุมกำเนิด แต่ยังคงไม่ตั้งครรภ์ ก็อาจเข้าข่ายภาวะมีบุตรยาก Angel Baby IVF Clinic จะพาคุณไขความลับของสาเหตุภาวะมีบุตรยากและวิธีการรักษา

1、ภาวะมีบุตรยากคืออะไร?

ภาวะมีบุตรยาก (Infertility) แบ่งได้เป็น 2 กรณีหลัก:

1. อายุต่ำกว่า 35 ปี

คู่รักที่มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยไม่มีการคุมกำเนิดมาเป็นเวลา 1 ปี แต่ยังไม่ตั้งครรภ์

 

2. อายุมากกว่า 35 ปี

หากมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอภายใน 6 เดือน โดยไม่ได้คุมกำเนิด แต่ไม่ตั้งครรภ์ ถือว่าเข้าข่ายภาวะมีบุตรยาก

หากคุณมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขข้างต้น และต้องการมีบุตร แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะมีบุตรยาก 👉 ติดต่อเรา

2、วิเคราะห์สาเหตุของภาวะมีบุตรยาก

มีสาเหตุมากมายที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งมีโอกาสประสบกับปัญหาภาวะมีบุตรยาก โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี มักจะเกิดปัญหาสุขภาพด้านต่างๆ สาเหตุของภาวะมีบุตรยากอาจมาจากสามประการดังนี้: 1. ภาวะมีบุตรยากในผู้หญิง 2. ภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย 3. ปัจจัยร่วมกันของทั้งสองฝ่าย

(1) สาเหตุของภาวะมีบุตรยากในฝ่ายหญิง

มีปัจจัยมากมายที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก โดยปัจจัยจากฝ่ายหญิงคิดเป็นประมาณ 45% โดยปัจจัยดังกล่าวรวมถึงรังไข่ ท่อนำไข่ หรือภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เป็นต้น

สาเหตุของภาวะมีบุตรยากในฝ่ายหญิง
อุ้งเชิงกรานท่อนำไข่อุดตันและพังผืด, พังผืดในอุ้งเชิงกราน
มดลูกเนื้องอกในมดลูก, ติ่งเนื้อในมดลูก, มดลูกผิดรูปร่าง, พังผืดในโพรงมดลูก, ปากมดลูกตีบหรือปิด, ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
รังไข่ภาวะไม่ตกไข่, ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ, เนื้องอกในรังไข่, ภาวะรังไข่ล้มเหลวก่อนวัย
ระบบต่อมไร้ท่อภาวะฮอร์โมนโปรแลคตินสูง, ภาวะฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง , ภาวะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูง
สาเหตุอื่นๆ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม, ความเครียดทางจิตใจ เป็นต้น

(2)สาเหตุหลักของภาวะมีบุตรยากในฝ่ายชาย

จากการสำรวจทางคลินิก พบว่าประมาณ 30% ของสาเหตุภาวะมีบุตรยากมาจากปัญหาของฝ่ายชาย และ 1 ใน 3 เป็นภาวะไม่มีอสุจิจากกรรมพันธุ์ ส่วน 2 ใน 3 เป็นภาวะคุณภาพอสุจิไม่ดีหรือมีจำนวนน้อย

สาเหตุทั่วไปของภาวะมีบุตรยากในฝ่ายชาย
องคชาตท่อปัสสาวะผิดปกติ, องคชาตโค้งงอผิดปกติ
อัณฑะภาวะทองแดง, อัณฑะบิด, ภาวะอัณฑะฝ่อ, เส้นเลือดขอดในอัณฑะ, การบาดเจ็บโดยอุบัติเหตุ
ท่อนำอสุจิท่อนำอสุจิขาดโดยกำเนิด, ท่อนำอสุจิติดเชื้อ
ระบบต่อมไร้ท่อภาวะพร่องฮอร์โมนเพศ, ภาวะฮอร์โมนโปรแลคตินสูง
สมรรถภาพทางเพศการหลั่งผิดปกติ, อวัยวะเพศไม่แข็งตัว
สิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการใส่กางเกงรัดรูปเป็นเวลานาน, การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

(3)ปัจจัยร่วมของภาวะมีบุตรยากของทั้งสองฝ่าย

นอกจากสาเหตุภาวะมีบุตรยากในฝ่ายหญิงและฝ่ายชายแล้ว ปัจจัยร่วมกันของทั้งสองฝ่ายยังรวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดี การใช้สารเสพติด และปัจจัยทางภูมิคุ้มกัน เป็นต้น

ปัจจัยร่วมกันของฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย
ภูมิคุ้มกันการสร้างแอนติบอดีต่ออสุจิในฝ่ายชาย หรือการสร้างแอนติบอดีต่อไข่ในฝ่ายหญิง
อื่นๆอายุมาก, น้ำหนักเกิน, ความเครียดสูง, พฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ การใช้สารเสพติด

3、การตรวจหาภาวะมีบุตรยาก

โดยทั่วไป แพทย์จะสอบถามประวัติทางการแพทย์ของคู่สมรส จากนั้นจะทำการตรวจร่างกายเบื้องต้น ซึ่งรวมถึงการตรวจเลือด, การตรวจฮอร์โมน, การตรวจโรคทางพันธุกรรม เป็นต้น นอกจากรายการตรวจข้างต้นแล้ว ยังมีการตรวจเฉพาะในการคัดกรองภาวะมีบุตรยากในฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย:

(1) การตรวจของฝ่ายหญิง

การตรวจเฉพาะสำหรับฝ่ายหญิง
รายการรายละเอียด
ตรวจฮอร์โมน FSH, LH, AMH FSH ตรวจหาปัญหาในการทำงานของรังไข่
LH ที่สูงหรือต่ำอาจเป็นสัญญาณของภาวะรังไข่ล้มเหลวก่อนวัย
AMH เป็นฮอร์โมนที่ประเมินการทำงานของรังไข่
การตรวจท่อนำไข่ด้วยการฉีดน้ำเกลือ(HSS)ตรวจความผิดปกติของโพรงมดลูกและท่อนำไข่
การตรวจโพรงมดลูกด้วยการส่องกล้อง(TCR)การส่องกล้องตรวจภายในมดลูกช่วยให้แพทย์สามารถดูสิ่งผิดปกติภายในมดลูกของผู้หญิงได้ (เช่น เนื้องอก ติ่งเนื้อในมดลูก เยื่อบุมดลูก ฯลฯ)
อัลตร้าซาวด์มดลูกและรังไข่(TVS)การอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่สามารถช่วยตรวจพบความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ได้ (เช่น มะเร็งปากมดลูก ซีสต์รังไข่ เนื้องอกรังไข่ เป็นต้น)

แนะนำให้ผู้หญิงตรวจสุขภาพเกี่ยวกับภาวะมีบุตรยากตั้งแต่ก่อนแต่งงานหรือก่อนวางแผนตั้งครรภ์ โดยเริ่มจากการตรวจพื้นฐานก่อน หากพยายามตั้งครรภ์มาเป็นเวลาหนึ่งปีแล้วยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แนะนำให้เริ่มการตรวจประเมินภาวะเจริญพันธุ์อย่างละเอียด

ตัวอย่างเช่น การตรวจฮอร์โมน AMH, การตรวจท่อนำไข่ (HSS), การส่องกล้องตรวจโพรงมดลูก (TCR), อัลตราซาวนด์มดลูกและรังไข่ (TVS) ล้วนเป็นรายการตรวจภาวะมีบุตรยากในเพศหญิงทั่วไป

(2)การตรวจของฝ่ายชาย

การตรวจเฉพาะสำหรับฝ่ายชาย
รายการรายละเอียด
การตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำเชื้อเป็นการตรวจองค์ประกอบต่าง ๆ ของน้ำเชื้อ ได้แก่ ปริมาณน้ำเชื้อ จำนวนอสุจิ รูปร่างของอสุจิ ความสามารถในการว่ายของอสุจิ
การตรวจฮอร์โมน FSHเพื่อค้นหาการผลิตอสุจิ และตรวจสอบว่าอัณฑะมีปัญหาหรือไม่

การวิเคราะห์น้ำเชื้อถือเป็นการตรวจพื้นฐานที่สุด โดยจะตรวจจำนวนของอสุจิ รูปร่างของอสุจิ และการเคลื่อนไหวของอสุจิในน้ำเชื้อ หากมีกรณีพิเศษ อาจต้องตรวจเพิ่มเติมในระดับที่ลึกขึ้น

การตรวจ FSH (Follicle Stimulating Hormone – ฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญของถุงไข่) ถือเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินความสามารถในการมีบุตรของผู้ชาย

หากค่า FSH สูงเกินไป มักจะแสดงว่าอัณฑะอาจไม่สามารถผลิตอสุจิได้อย่างปกติ ในทางกลับกัน หากค่า FSH ต่ำเกินไป อาจแสดงถึงความผิดปกติของต่อมใต้สมอง ซึ่งทำให้ไม่สามารถกระตุ้นการทำงานของอัณฑะได้อย่างเหมาะสม ทั้งสองกรณีนี้อาจเป็นสาเหตุของภาวะมีบุตรยากในเพศชายได้

4、คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาวะมีบุตรยาก【Q&A รวมคำถามยอดฮิต】

เมื่อพูดถึงภาวะมีบุตรยาก เชื่อว่าหลายคู่รักคงมีข้อสงสัยอยู่มากมาย เราได้รวบรวมคำถามและคำตอบยอดฮิตเกี่ยวกับภาวะมีบุตรยาก 3 ข้อ ดังนี้:

excited-lady-telling-husband-about-her-pregnancy-people-home-happy-husband

(1)ภาวะมีบุตรยากเป็นปัญหาของฝ่ายใด?

โดยทั่วไปเมื่อพูดถึงภาวะมีบุตรยาก ก็มักจะนึกถึงฝ่ายหญิงก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งความคิดนี้ถือว่าเป็นอคติ! จากสถิติพบว่า สาเหตุของภาวะมีบุตรยากเกิดจากฝ่ายชายและฝ่ายหญิงในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน คือประมาณครึ่งต่อครึ่ง ดังนั้นหากคู่สมรสพบว่ามีปัญหาการมีบุตร ควรเข้ารับการตรวจทั้งสองฝ่ายพร้อมกันที่โรงพยาบาล

(2)เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?

แนะนำให้คู่รักตรวจสุขภาพก่อนสมรส หรือเข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรหลังแต่งงาน หากแต่งงานแล้วมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอโดยไม่ได้คุมกำเนิดนานเกิน 1 ปีแล้วยังไม่ตั้งครรภ์ ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านภาวะมีบุตรยากเพื่อตรวจวินิจฉัย

(3)เด็กหลอดแก้วคือวิธีเดียวในการรักษาภาวะมีบุตรยากหรือไม่?

คำตอบคือ “ไม่ใช่”! นอกจากเด็กหลอดแก้ว (IVF) แล้วยังมีการผสมเทียม (IUI) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากที่พบได้บ่อย โดยเราจะอธิบายความแตกต่างของทั้งสองวิธีแบบง่าย ๆ ดังนี้:

1. เด็กหลอดแก้ว(IVF)

เด็กหลอดแก้ว(in vitro fertilization, IVF) คือกระบวนการนำอสุจิและไข่ของสามีภรรยาออกมาจากร่างกาย จากนั้นทำการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการที่ควบคุมสภาพแวดล้อมเหมาะสมให้เกิดการปฏิสนธิ แล้วเลี้ยงตัวอ่อนในห้องเพาะเลี้ยง ก่อนจะคัดเลือกตัวอ่อนที่พัฒนาได้ดี แล้วย้ายตัวอ่อนเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์

อ่านเพิ่มเติม: เด็กหลอดแก้วเหมาะกับใคร? ขั้นตอนและกระบวนการเป็นอย่างไร? ดูที่นี่!

2. การผสมเทียม(IUI)

การผสมเทียม (intrauterine insemination, IUI)เป็นวิธีหนึ่งในการรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยใช้เทคโนโลยีการเจริญพันธุ์คัดเลือกเฉพาะอสุจิที่แข็งแรง จากนั้น ในช่วงเวลาที่ตรงกับรอบประจำเดือนของฝ่ายหญิง จะใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ช่วยนำอสุจิฉีดเข้าไปโดยตรงผ่านทางช่องคลอด สู่ปากมดลูก และเข้าสู่โพรงมดลูก เพื่อเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิ

อ่านเพิ่มเติม: การผสมเทียม (IUI) มีโอกาสสำเร็จแค่ไหน? ข้อดีคืออะไร?

5、แนะนำคลินิกรักษาภาวะมีบุตรยาก: Angel Baby IVF Clinic คลินิกรักษาผู้มีบุตรยากในประเทศไทย

Angel Baby IVF Clinic ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก เราเชื่อว่ากุญแจสู่ความสำเร็จในการเอาชนะภาวะมีบุตรยากนั้นขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานสูง และผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการตัวอ่อนที่มีประสบการณ์

ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างทั้งสามสิ่งนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบหลักในอัตราความสำเร็จของการรักษาภาวะมีบุตรยาก นอกจากจะมีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านการตรวจวินิจฉัยและรักษาภาวะมีบุตรยากแล้ว เรายังมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำการรักษาที่ถูกต้อง ชัดเจน และเอาใจใส่ ตลอดจนให้คำแนะนำตามภาวะมีบุตรยากของแต่ละกรณีอีกด้วย

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ไทย