ในประเทศไทย คู่สมรสประมาณ 10-15% ประสบภาวะมีบุตรยาก แต่ด้วยเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีทางเลือกในการรักษาที่หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำ IUI (การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก), IVF (เด็กหลอดแก้ว) หรือ ICSI (การฉีดอสุจิเข้าสู่เซลล์ไข่โดยตรง) แล้ววิธีไหนล่ะที่จะเหมาะกับคุณ? Angel Baby Clinic จะช่วยให้คุณเข้าใจทางเลือกเหล่านี้มากยิ่งขึ้นค่ะ
ภาวะมีบุตรยาก รักษาอย่างไรได้บ้าง?
การรักษาภาวะมีบุตรยากมีหลายวิธี หลักๆ ที่นิยมใช้กันมี 3 รูปแบบ ดังนี้
การรักษาภาวะมีบุตรยากที่นิยมใช้ | |
---|---|
วิธีการรักษา | คำอธิบาย |
การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) | เป็นการคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรง แล้วฉีดเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรงเพื่อเพิ่มโอกาสปฏิสนธิ |
เด็กหลอดแก้ว (IVF) | เป็นการนำไข่และอสุจิออกมาปฏิสนธิกันภายนอกร่างกายในห้องปฏิบัติการ เมื่อปฏิสนธิและพัฒนาเป็นตัวอ่อนแล้ว แพทย์จะย้ายตัวอ่อนกลับไปฝังในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิง |
การฉีดอสุจิเข้าสู่เซลล์ไข่โดยตรง (ICSI) | เป็นเทคนิคพิเศษที่นักวิทยาศาสตร์จะคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียง 1 ตัว แล้วใช้เข็มขนาดเล็กมากฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง เพื่อช่วยให้เกิดการปฏิสนธิ |
ทั้ง IUI, IVF และ ICSI เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในการรักษาภาวะมีบุตรยาก แพทย์จะพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น อายุของคู่รัก สาเหตุของภาวะมีบุตรยาก และประวัติสุขภาพ เพื่อแนะนำแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณค่ะ
การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI)
การทำ IUI เป็นการคัดเลือกอสุจิที่สมบูรณ์แข็งแรง แล้วฉีดกลับเข้าไปในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงโดยตรง ในช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการตกไข่ เพื่อเพิ่มโอกาสที่อสุจิจะเจอและปฏิสนธิกับไข่ได้สำเร็จ
ข้อดีของการทำ IUI คืออะไร และใครที่เหมาะกับวิธีนี้?
- IUI เป็นวิธีที่ใกล้เคียงกับการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติมากที่สุด และมีค่าใช้จ่ายที่ประหยัดกว่าเมื่อเทียบกับการทำ IVF
- IUI สามารถเก็บอสุจิแช่แข็งไว้ได้ ซึ่งเหมาะกับครอบครัวที่วางแผนจะมีลูกคนที่สองในอนาคต
- กระบวนการไม่ซับซ้อน ใช้ยาและฉีดน้อยกว่า (โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์)
เด็กหลอดแก้ว(IVF)
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่มีอัตราความสำเร็จสูง โดยแพทย์จะนำไข่และอสุจิที่ผ่านการคัดเลือกคุณภาพแล้ว มาทำการปฏิสนธินอกร่างกายในห้องปฏิบัติการ เมื่อเพาะเลี้ยงตัวอ่อนไปแล้วประมาณ 3-5 วัน จากนั้นจึงนำตัวอ่อนกลับไปฝังในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิง
การทำเด็กหลอดแก้ว(IVF) เหมาะสำหรับคู่รักที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ตามธรรมชาติ ซึ่งมักมีปัจจัยมาจากปัญหาสุขภาพ เช่น ท่อนำไข่อุดตัน โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ กลุ่มอาการถุงน้ำในรังไข่หลายใบ หรือจำนวนอสุจิหรือการเคลื่อนไหวของอสุจิน้อย
ข้อดีของการทำเด็กหลอดแก้ว(IVF)คืออะไร และใครที่เหมาะกับวิธีนี้
- คู่รักสามารถกำหนดช่วงเวลาการตั้งครรภ์ได้ ช่วยให้วางแผนชีวิตได้ง่ายขึ้น
- IVF มีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ที่สูงกว่า IUI และตัวอ่อนจากกระบวนการ IVF สามารถแช่แข็งไว้ได้นานกว่า 10 ปี
- การทำ IVF ร่วมกับ PGT-A (การตรวจคัดกรองโครโมโซมก่อนการฝังตัว) เพิ่มโอกาสการได้บุตรที่แข็งแรงมากขึ้น
การฉีดอสุจิเข้าสู่เซลล์ไข่โดยตรง (ICSI)
ICSI ย่อมาจาก Intracytoplasmic Sperm Injection ซึ่งหมายถึง “การฉีดอสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง” หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “การทำ ICSI”
การฉีดอสุจิเข้าสู่เซลล์ไข่โดยตรงคืออะไร? โดยปกติแล้ว การทำเด็กหลอดแก้ว(IVF) คือ การนำอสุจิที่เข้มข้นหลายหมื่นตัวมาปล่อยให้ผสมกับไข่ในที่ๆเดียวกัน แต่หากจำนวนหรือคุณภาพของอสุจิไม่เพียงพอ ก็จะไม่สามารถปฏิสนธิได้อย่างปกติ
แต่ ICSI จะเป็นขั้นตอนที่นักวิทยาศาสตร์จะคัดเลือกอสุจิที่สมบูรณ์ที่สุดเพียง 1 ตัว แล้วใช้เข็มขนาดเล็กมากฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิ
ข้อดีของการฉีดอสุจิเข้าสู่เซลล์ไข่โดยตรง(ICSI)คืออะไร และใครที่เหมาะกับวิธีนี้?
- ช่วยลดความล่าช้าของกระบวนการ และลดความเครียดทางจิตใจและร่างกายให้กับคู่รัก
- เหมาะอย่างยิ่งสำหรับฝ่ายชายที่มีปัญหาอสุจิน้อย อสุจิเคลื่อนไหวไม่ดี หรือมีรูปร่างผิดปกติ
- ช่วยเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิสำหรับผู้ที่ไข่คุณภาพไม่ดี หรือฝ่ายหญิงมีอายุมาก
ความแตกต่างระหว่าง IUI, IVF และ ICSI
IUI (การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก), IVF (เด็กหลอดแก้ว) และ ICSI (การฉีดอสุจิเข้าสู่เซลล์ไข่โดยตรง) ทั้งสามเทคนิคนี้มีความแตกต่างกันอย่างมากในด้านขั้นตอน ความซับซ้อน อัตราความสำเร็จ และค่าใช้จ่าย
ตารางเปรียบเทียบ IUI, IVF และ ICSI | |||
---|---|---|---|
รายการ | IUI (การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก) | IVF (เด็กหลอดแก้ว) | ICSI (การฉีดอสุจิเข้าสู่เซลล์ไข่โดยตรง) |
ขั้นตอน | ฉีดอสุจิเข้าโพรงมดลูกโดยตรง | นำไข่-อสุจิผสมกันนอกร่างกาย เพาะเลี้ยงตัวอ่อน แล้วย้ายกลับมดลูก | ฉีดอสุจิ 1 ตัวเข้าเซลล์ไข่โดยตรง เพาะเลี้ยงตัวอ่อน แล้วย้ายกลับมดลูก |
เหมาะสำหรับ | ภาวะมีบุตรยากแบบไม่รุนแรง ท่อนำไข่ดี, อสุจิปกติ |
ภาวะมีบุตรยากทั้งชายและหญิง ทำ IUI ล้มเหลวหลายครั้ง มีภาวะแท้งบุตรซ้ำซาก |
ผู้ที่อสุจิเคลื่อนที่ได้ไม่ดี อสุจิมีจำนวนน้อย ทำ IVF ล้มเหลวหลายครั้ง |
ข้อดี | ขั้นตอนง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำ ระยะเวลาพักฟื้นตัวไม่นาน |
เหมาะสำหรับเคสที่ซับซ้อน อัตราสำเร็จสูง เหมาะกับคนหลายกลุ่ม |
แก้ปัญหาภาวะมีบุตรยากในเพศชาย แก้ปัญหาเซลล์ไข่คุณภาพไม่ดี เพิ่มโอกาสสำหรับผู้มีอายุมาก |
ข้อเสีย | อัตราสำเร็จต่ำ เหมาะกับคนบางกลุ่มเท่านั้น โอกาสติดแฝดสูง |
การรักษามีความซับซ้อน ค่าใช้จ่ายสูง | ต้องมีอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการ ต้องใช้เทคนิคเฉพาะทางสูง |
IUI เป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดที่สุด เหมาะกับภาวะมีบุตรยากที่ไม่รุนแรง แต่อัตราสำเร็จต่ำ (10-20%) ส่วน IVF เหมาะกับกลุ่มคนที่กว้างกว่าและอัตราสำเร็จสูงกว่า (30-50%) โดยเฉพาะสำหรับภาวะมีบุตรยากจากฝ่ายหญิง ในขณะที่ ICSI เป็นเทคนิคเฉพาะทางสำหรับผู้มีปัญหาอสุจิ คู่รักแต่ละคู่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาจากสถานการณ์ของตนเอง รับคำแนะนำทางการแพทย์ และพิจารณาค่าใช้จ่าย เพื่อเลือกแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
Angel Baby Clinic ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก พร้อมช่วยคุณเลือกทางเลือกที่ใช่สำหรับครอบครัวคุณ
เพราะทุกครอบครัวไม่เหมือนกัน ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Angel Baby Clinic พร้อมดูแลและให้คำแนะนำแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้คุณได้ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็น IUI, IVF หรือ ICSI
ที่ Angel Baby Clinic เราไม่ได้มุ่งเน้นแค่ขั้นตอนทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจความต้องการ ความคาดหวัง และความกังวลของคุณอีกด้วย ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะให้คำปรึกษากับคุณอย่างละเอียด เพื่อประเมินสถานการณ์ของคุณ พร้อมให้ข้อมูลที่โปร่งใสและคำแนะนำอย่างมืออาชีพ เพื่อให้คุณมั่นใจในการเลือกแผนการมีบุตรที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางการรักษาแบบ IUI ที่ง่ายกว่า หรือต้องการกระบวนการ IVF หรือ ICSI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น Angel Baby Clinic จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดเส้นทาง มอบการสนับสนุนอย่างมืออาชีพและความเอาใจใส่ที่อบอุ่น เพื่อให้ความฝันในการมีบุตรของคุณเป็นจริงค่ะ